หน้าหลัก » ไฟล์ » เอกสารงานวิจัย |
[ ดาวน์โหลดจากเวบนี้ (66.0 Kb) ] | 18 January 2014, 10:04:46 |
1.ชื่อโครงการวิจัย: อาจเขียนทั้งภาษาไทย
และอังกฤษ ชื่อโครงการต้องกระชับ มีความชัดเจน ไม่คลุมเครือ
ไม่สั้นหรือยาวจนจับใจความไม่ได้ (ไม่ควรระบุชื่อสถานที่ในชื่อเรื่อง) 2.ผู้วิจัย / ทีมผู้วิจัย: ระบุชื่อผู้วิจัยหลักเป็นชื่อแรก
และเรียงตามลำดับการทำงานวิจัยมากไปน้อย หากมากกว่า 3 คน ให้เติม "และคณะ” ต่อท้ายคนที่ 3 ควรระบุตำแหน่งและหน่วยงานของนักวิจัยทุกคนด้วย 3.ที่ปรึกษาวิจัย: ที่ปรึกษาต้องมีความรู้
ประสบการณ์ ทางด้านงานวิจัย ทั้งด้านเนื้อหา และด้านระเบียบวิธีวิจัยหรือด้านสถิติ 4.ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา: ระบุเหตุผล
ความสำคัญของปัญหา ให้ชัดเจนว่าทำไมต้องทำวิจัยเรื่องนี้
ถ้าไม่ทำแล้วจะเกิดผลกระทบอย่างไร ต่อใครบ้าง ถ้าทำแล้วจะเป็นประโยชน์กับใครบ้าง
อย่างไร เป็นต้น และควรมีการทบทวนวรรณกรรมมากพอและอ้างอิงข้อมูลที่ชัดเจน 5.คำถามหลักการวิจัย: มีความชัดเจนและสำคัญเพียงพอที่จะต้องทำวิจัย
ทำเสร็จแล้วสามารถนำไปใช้ในการแก้ปัญหาสำคัญๆ ได้
ไม่เพียงแต่ตอบสนองความรู้ที่ตนเองต้องการเท่านั้น แต่ต้องตอบสนองต่อหน่วยงาน
องค์กร ผู้ป่วย ประชาชนด้วย และต้องไม่คลุมเครือหรือมีขอบเขตกว้างจนเกินไป
โดยต้องระบุให้ชัดเจนว่าเราต้องการทราบอะไร
( ตั้งเป็นลักษณะคำถาม "?” ) 6.วัตถุประสงค์การวิจัย: 1)นิยมใช้คำขึ้นต้นว่า "เพื่อ” โดยสอดคล้องกับชื่อเรื่องและคำถามวิจัย
2)ไม่มีหลายข้อเกินไป 3) ควรเขียนแยกเป็นข้อๆอย่างชัดเจน
4)จัดเรียงลำดับความสำคัญก่อนหลัง 5) อ่านแล้วเข้าใจง่าย
ไม่คลุมเครือ ใช้คำตรงตามความหมาย 7.สมมติฐานการวิจัย (ถ้ามี): ส่วนใหญ่ใช้กรณีที่เป็นการวิจัยเชิงวิเคราะห์หรือเชิงทดลองเพื่อพิสูจน์สมมติฐาน
ซึ่งเป็นคำตอบที่คาดคะเนล่วงหน้า โดยอาศัยเหตุผลที่ได้จากความรู้
จินตนาการและประสบการณ์เดิมของผู้วิจัย
โดยจะทดสอบสมมติฐานได้ต้องมีการวัดตัวแปรทั้ง 2
เป็นตัวเลขและสามารถทดสอบได้มี 2 อย่าง 1)
สมมติฐานทางการวิจัย
เขียนเป็นข้อความถึงความคาดคะเนความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร
จะมีทิศทางหรือไม่มีทิศทางก็ได้ เช่นคำว่า "แตกต่างกัน”
หรือ "ไม่แตกต่างกัน” หรือ
"สูงกว่า” หรือ "ต่ำกว่า”
เป็นต้น 2) สมมติฐานทางสถิติ
เขียนในรูปประโยคสัญลักษณ์เชิงสถิติ 8.ขอบเขตการวิจัย: ระบุขอบเขตของการศึกษาว่า
ศึกษาภายใต้เงื่อนไขใดบ้าง หรือภายใต้ข้อจำกัดใดบ้าง 9.นิยามศัพท์: มีทั้งนิยามความหมายทั่วไปของศัพท์เฉพาะหรือตัวแปร
/ และนิยามเชิงปฏิบัติการ ซึ่งอาจเป็นกลุ่มคำหรือกิจกรรมสำคัญ จะได้เข้าใจตรงกัน /
ไม่ควรใช้คำปฏิเสธซ้อนกันหรือกำกวมเข้าใจยาก /ในการกำหนดคำศัพท์ใด
ควรศึกษาค้นคว้าเอกสาร และทฤษฎีหรือสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคำนั้นมาอย่างดีแล้ว
ไม่ควรคิดคำศัพท์หรือคำนิยามขึ้นใหม่ด้วยตนเองโดยปราศจากการศึกษาอ้างอิงหรือวัดไม่ได้ 10.ตัวแปรที่ศึกษา: ระบุกรอบการวิจัยให้ชัดเจนหากอ้างอิงแนวคิดหรือทฤษฎี
หรืออาจเขียน Flow ด้วย
และอาจระบุตัวแปรและความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรด้วย 11.วิธีการศึกษา: เป็นการอธิบายรายละเอียดให้ชัดเจนในประเด็นต่างๆ
ต่อไป 11.1รูปแบบการวิจัย: กำหนดรูปแบบการวิจัย
หรือ ระเบียบวิธีวิจัย หรือ ออกแบบวิจัย หรือ แบบแผนการวิจัย ให้ชัดเจน
ว่าจะดำเนินการเป็นขั้นตอนอย่างไร
ที่เป็นรูปแบบที่เหมาะสมที่สุดที่จะให้ได้คำตอบนี้ดีที่สุด และสามารถอธิบายจุดแข็ง
จุดอ่อน หรือข้อดี ข้อเสีย ของแบบแผนงานวิจัยของตนเองได้ทุกแง่มุม
11.2ประชากร/กลุ่มตัวอย่างและขนาด/วิธีการสุ่มตัวอย่าง: ประชากรมีทั้งประชากรที่มีจำกัดและไม่จำกัด
ซึ่งเป็นการกำหนดคุณสมบัติของหน่วยวิเคราะห์ที่ต้องศึกษาว่ามีลักษ ณะอย่างไร
มีคุณสมบัติอย่างไร ซึ่งประชากรหมายถึงจำนวนทั้งหมด หรือสิ่งทั้งหมดที่จะศึกษา
แต่ถ้ามีปริมาณมากเกินไปอาจทำให้เสียเงินและเวลาในการวิจัย
ควรนำมาศึกษาเพียงบางส่วนซึ่งเรียกกลุ่มที่นำมาได้นี้ว่า”กลุ่มตัวอย่าง” 11.3 เครื่องมือในการวิจัย/วิธีการสร้างหรือพัฒนา/วิธีเก็บข้อมูล:
1. เครื่องมือจะต้องมีความตรง ความเที่ยง มีอำนาจจำแนก
ความยากง่ายของการตอบ ตรงตามเนื้อหา
ไม่มากเกินไปต้องเปลืองเวลาและต้นทุนหรือน้อยเกินไปจนไม่สามารถเก็บรายละเอียดสำคัญได้
ทั้งนี้ต้องมีความเหมาะสมที่สุด ผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ 11.4
แนวทางวิเคราะห์ข้อมูล /
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์/การนำเสนอข้อมูล: กำหนดสถิติที่ใช้ตอบคำถาม
ประกอบด้วย 12. ปีที่ทำวิจัย/ระยะเวลา/ปฏิทินดำเนินการวิจัย: ควรระบุตั้งแต่เริ่มต้น
จนสิ้นสุดงานวิจัย และระบุรายละเอียดว่าช่วงไหนทำอะไรบ้าง 13.งบประมาณ: ระบุให้ชัดเจนว่าจะใช้จ่ายอะไรบ้าง
ยิ่งระบุได้ชัดเท่าใด ก็จัดสรรได้ง่ายมากเท่านั้น
(สำหรับงานวิจัยที่ใช้งบประมาณมาก อาจจะสนับสนุนเพียงบางส่วน
หรืออาจจะให้ของบประมาณจากหน่วยงานภายนอก)
สำหรับเงินวิจัยอาจไม่พิจารณาให้ซื้อวัสดุหรือครุภัณฑ์ที่มีราคาแพง อาจปรับให้ใช้จากหมวดอื่น
หรือ นักวิจัยจะต้องระบุให้ชัดเจนว่าหากมีวัสดุ/ครุภัณฑ์
ที่ใช้หลังจากการวิจัยแล้วจะดำเนินการอย่างไร 14.ผลที่คาดว่าจะได้รับจากงานวิจัย: ระบุประโยชน์ทั้งระยะสั้น
และระยะยาว / ประโยชน์ต่อหน่วยงาน หรือต่อองค์กรอย่างไร 15.ผลกระทบด้านจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์: สำหรับงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับด้านจริยธรรมหรือการทดลองในมนุษย์
ให้ระบุให้ชัดเจนว่าเหตุผลใดจึงต้องทดลอง/เก็บข้อมูลในมนุษย์
จะต้องมีข้อความระบุไว้ในโครงการและให้แสดง Inform
consent หรือใบยินยอมแนบมาพร้อมกับโครงการด้วย
หรือหากมีใบรับรองการทำวิจัยในมนุษย์จากที่อื่นมาแล้ว ให้แนบมาพร้อมโครงการด้วย
และจะต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการจริยธรรมทางการวิจัยอีกครั้งก่อนที่จะให้คณะกรรมการวิจัยพิจารณา
ซึ่งจะมีใบรับรองจากคณะกรรมการจริยธรรมทางการวิจัยก่อน
(ซึ่งคณะกรรมการวิจัยจะดำเนินการประสานงานเอง) 16.บรรณานุกรม/เอกสารอ้างอิง: ให้ระบุเอกสารอ้างอิงด้วย
(หรือจะเขียนตอนผลงานวิจัยก็ได้) 17.ภาคผนวก: ควรส่งแนบมาด้วย ก.โครงร่างเครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล: โครงร่างเครื่องมือหรือแบบสอบถาม ควรแนบมาพร้อมกับโครงร่างวิจัย ข.รายละเอียดแนวคิด
ทฤษฎี บางประการที่เกี่ยวข้อง: ถ้ามีแนวคิด
ทฤษฎี บางประการที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยก็ควรสรุป หรือแนบมาด้วย 18.ความเห็นของผู้บังคับบัญชา: ขอให้ผู้บังคับบัญชาให้ความเห็นและลงนามรับทราบ
| |
Views: 1788 | ดาวน์โหลด: 266 | Rating: 0.0/0 |
คอมเม้นทั้งหมด: 0 | |