หน้าหลัก »
2012 » May » 7 » ความสัมพันธ์อาเซียน-ยุโรป
13:11:33 ความสัมพันธ์อาเซียน-ยุโรป |
ความสัมพันธ์อาเซียน-ยุโรป
อาเซียน-ยุโรป มีความสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนาน โดยมีสิงคโปร์เป็นตัวกลางในการก่อให้เกิดความสัมพันธ์ เนื่องจากสิงคโปร์เคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษ และมองว่าตนเองจะเสียผลประโยชน์จากการที่อังกฤษเจ้าอาณานิคมของตนเองจะเข้าเป็นสมาชิกอียู จึงเสนอให้อาเซียนสร้างความสัมพันธ์กับอียู
การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียน-ยุโรปเป็นความสัมพันธ์แบบข้ามขั้ว ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากโดยเฉพาะกับอาเซียนที่มีนโยบายในการสร้างความสัมพันธ์แบบข้ามขั้วกับหลายกลุ่มหลายภูมิภาค เนื่องจากภายในอาเซียนนั้นสามารถสร้างความร่วมมือได้ทั้งแล้วเกือบทั้งหมด (ยกเว้นติมอร์ตะวันออกที่คาดว่าน่าจะเข้ามาเป็นสมาชิกอาเซียนในอนาคตอันใกล้)
ปี 2007 เป็นปีครอบรอบความสัมพันธ์อาเซียน-ยุโรป 30 ปี ทำให้มีความตกลงจัดประชุมสุดยอดเพื่อฉลองการครบรอบความสัมพันธ์ 30 ปี (ASEAN-EU Commemorative Summit) ภายในปีนี้ โดยยุโรปสนใจจะ การเข้าเป็นภาคี TAC หรือสนธิสัญญาไมตรีและความมั่นคงแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation) และยังคงเดินหน้าโครงการ FTA อาเซียน-ยุโรป
นอกจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับอียูก็พัฒนามาอยู่ในกรอบที่เรียกว่า ASEM-Asia-Europe Meeting ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศอาเซียน 10 ประเทศบวก จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ร่วมกับประเทศอียูทั้งหมด
ความสนใจของอียูที่มีต่ออาเซียนเกิดจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วของอาเซียนในทศวรรษที่ 1990 และตรงนี้เป็นสาเหตุที่อียูมีความพยายามจะเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์จากความสัมพันธ์แบบผู้ให้และผู้รับมาเป็นความสัมพันธ์แบบเท่าๆกัน
อย่างไรก็ตามประเด็นที่เป็นการบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับอียูก็คือ การที่อาเซียนรับพม่าเข้ามาเป็นสมาชิก ทำให้อียูประท้วงโดยการไม่เข้าร่วมเจรจาในที่ประชุมของอาเซียนในระยะหนึ่ง (การประชุม ARF) และในการประชุม ASEM เองอียูก็ไม่ให้พม่าเข้าร่วมประชุมเนื่องจากอียูมองว่าพม่ามีปัญหาประชาธิปไตยและการละเมิดสิทธิมนุษยชน เหตุการณ์ในพม่าล่าสุดทำให้อียูออกโรงประณามการกระทำของพม่าและเรียกร้องให้อาเซียนกดดันพม่าให้มีการแก้ไขปัญหา
สำหรับความร่วมมือระหว่างอียูกับอาเซียนในปัจจุบันนอกจากมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการค้าต่อกัน อียูยังมีเป้าหมายในการคานอำนาจกับสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
ส่วนประเด็นความร่วมมือในปัจจุบันก็หันมาให้ความสนใจกับประเด็นความมั่นคงใหม่มากขึ้น ในประชุมสุดยอดอาเซ็มครั้งที่ 6 ในปี 2006 ผู้นำของอาเซ็มได้ตกลงที่จะขยายสมาชิกภาพอาเซ็มเพิ่มขึ้นคือ อินเดีย ปากีสถาน มองโกเลีย โรมาเนีย และบัลกาเรีย แต่ในการจัดประชุมครั้งที่ 7 ในปี 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน มีอินเดียและปากีสถานเข้าร่วมประชุม โดยประเด็นที่ถกเถียงในที่ประชุมเรื่องปัญหาเศรษฐกิจโลก กลยุทธ์ใหม่ของอียูทีมีต่ออาเซียน New Partnership with South East Asia - สนับสนุนการมีเสถียรภาพส่วนภูมิภาคและการต่อต้านการก่อการร้าย
- สนับสนุนส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตย และ Good Governance
- ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ แก้ไขปัญหาผู้อพยพ การฟอกเงิน (Money Laundering) โจรสลัด (Piracy) ยาเสพติด
- ส่งเสริมความคิดริเริ่มที่เกี่ยวกับการค้าข้ามภูมิภาคระหว่างยุโรปกับอาเซียน (Trans - Regional EU – ASEAN Trade Initiative: TREATI)
- ส่งเสริมการพัฒนาประเทศที่มีความมั่งคั่งน้อย (Less Prosperous Countries) หรือจริงๆแล้วคือประเทศยากจนหรือกำลังพัฒนานั่นเอง
- ส่งเสริมการเจรจาและความร่วมมือในนโยบายเฉพาะด้าน เช่น การค้า มหาดไทย เศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์ การศึกษา วัฒนธรรม พลังงาน ขนส่ง เป็นต้น
ความร่วมมือในการจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน-ยุโรป
ยุโรปกับอาเซียนได้ตกลงจะมีความร่วมมือในการจัดตั้งเขตการค้าเสรีต่อกันมาตั้วแต่ ปี 2007 ในการจัดประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-ยุโรป ที่ประเทศบรูไน โดยมีกรอบในการเจรจาที่ครอบคลุมถึงการเปิดเสรีการค้า การค้าบริการและการลงทุนรวมทั้งความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจอื่นๆ โดยมีการจัดตั้งกรรมการร่วมจัดทำความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ยุโรป (Join Committee on Asian-Europe FTA) กำหนดให้มีการเจราปีละ 4 ครั้ง ครั้งล่าสุดมีการเจรจากันเป็นครั้งที่ 7 ในเดือนมีนาคม 2009 ที่มาเลเซีย แต่การประชุมไม่มีความคืบหน้ามากนัก เนื่องจากประเทศอาเซียนหลายประเทศไม่มีความพร้อม อียูจึงจะขอเน้นเจรจาเป็นรายประเทศที่มีความพร้อมก่อน ส่วนการประชุมของทั้งหมดจะหยุดพักเอาไว้ชั่วคราว
ประเด็นปัญหาทางการเมืองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การที่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับผลกระทบจากลัทธิอาณานิคมของชาติตะวันตกและทำให้ทุกประเทศต้องตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่ง (ยกเว้นประเทศไทย) ชาติตะวันตกที่เข้ามาได้สร้างปัญหาตามมากมาย เช่น - ปัญหาความไม่เป็นประชาธิปไตย เนื่องจากชาติตะวันตกที่เข้ามาปกครองประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการปกครองแบบประชาธิปไตยทำให้เมื่อถอนตัวออกไปหรือให้เอกราชจึงยัดเยียดการปกครองแบบประชาธิปไตยให้กับดินแดนอาณานิคม ขณะที่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็รีบหยิบฉวยเอาการปกครองแบบประชาธิปไตยมาใช้โดยหวังว่าจะทำให้ประเทศตนเองมีความเท่าเทียมกับเจ้าอาณานิคม แต่เมื่อนำมาใช้กลับมีปัญหามากมาย เนื่องจากวัฒนธรรมดั้งเดิมของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่สอดคล้องกับแนวคิดแบบประชาธิปไตย ทำให้ในปัจจุบันทุกประเทศมีปัญหาความไม่เป็นประชาธิปไตยทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นประเทศไทย กัมพูชา อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ซึ่ง 4 ประเทศนี้จะมีทหารเข้ามามีบทบาททาวการเมืองโดยตลอด แม้กระทั่งมาเลเซียและสิงคโปร์ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด แต่แท้จริงแล้วสิงคโปร์ก็เป็นเผด็จการแบบรัฐสภา ส่วนมาเลเซียก็ไม่ได้สร้างความเท่าเทียมกันในทางการเมืองให้กับคนในประเทศ
- ปัญหาคอรับชั่น ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่พบกับปัญหาการคอรับชั่นและความไม่มีประสิทธิภาพในระบบราชการ เนื่องจากระบบอุปถัมภ์ที่ฝังรากลึกในภูมิภาคทำให้คนในสังคมเห็นแก่พวกพ้อง
- ปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาค ความขัดแย้งครั้งสำคัญของภูมิภาคนี้มีอยู่หลายครั้งต่ครั้งที่สำคัญคือ สงครามเวียดนามและสงครามกัมพูชา
|
หมวด: อาเซียน (ASEAN) |
Views: 1574 |
เพิ่มโดย: jatuporn
| Tags: ความสัมพันธ์อาเซียน-ยุโรป
| Rating: 0.0/0 |