18:50:49 ทุเรียนกินอย่างไรไม่อ้วน |
ทุเรียนกินอย่างไรไม่อ้วนหลงลับแลและแก้วลับแล เป็นชื่อทุเรียนชนิดหนึ่ง ซึ่งมีอยู่เฉพาะที่เมืองลับแลจังหวัดอุตรดิตถ์ ชาวเมืองที่นี่เชื่อกันว่าเป้นทุเรียนที่อร่อยที่สุดของภาคเหนือมีเนื้อนุ่ม เหลืองงาม รสหอมหวาน วางตลาดด้วยราคาค่อนข้างสูงทีเดียวถึงกิโลกรัมละ 70-80บาท ทุเรียนลางสาดของอำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ชื่อ ระบือไกลมาเนิ่นนานพอสมควร ผู้คนทางภาคเหนือเช่น แพร่ น่าน ลำปาง พะเยา กระทั่งถึงเชียงราย แทบทุกคนที่ได้กินทุเรียนก็จากเมืองลับแลนั่นแหละ ที่ติดใจคือ ทุเรียนของเขา ลักษณะลูกเล็กๆกางมือทั้งห้านิ้ว รับรองได้รอบลูกพอดี สองลูกสิบบาท ผูกเชือกฟางติดกันหิ้วสะดวก เนือ้หนา หวานมัน พระศรีพนมมาศ คือ นายอำเภอคนแรกของเมืองลับแล (เมื่อสมัยรัชกาลที่5 ) เป็นผู้พัฒนาเมืองลับแล และเป็นผู้ส่งเสริมให้ชาวเมืองปลูกทุเรียนและลางสาดเป็นคนแรกอาศัยสิ่งแวดล้อมเกื้อกูลธรรมชาติ โดยรวบรวมเมล็ดพันธุ์และลางสาดได้แล้วพระศรีพนมมาศจะสอนชาวเมืองลับแลให้หุ้มเมล็ดทุเรียนและลางสาดด้วยดินเหนียวค่อนข้างหนา แล้วโยนเมล็ดพันธุ์เหล่านั้นไปตามเนินภูเขา ใกล้ไกลตามแรงเหวี่ยง สายพันธุ์ของทุกสิ่งมีชีวิต เมื่อตก ต้องสู่สภาวะดิน น้ำ ลม ไฟ ที่ผนวกเข้ากันอย่างเหมาะสม ย่อยแตกตัว ก่อเกิดเป็นชีวิตใหม่ เพื่อสืบสานลมหายใจต่อเนื่องกันไป เช่นกัน เมล้ดพันธุ์ทุเรียน พอกด้วยดินเหนียวเมื่อถูกขว้างปาลงบนพื้นที่ทุกซอกมุมบนสันเขา ที่สลับซับซ้อน ตามภูมิประเทศเมืองลับแล จึงเจริญเติบโตได้อย่างดี ทุกวันนี้ห้วยหุบเขาแห่งนั้น จึงดาษดื่นด้วยต้นทุเรียนที่มีอายุพ้นร้อยปีเกือยทั้งนั้น ฉะนั้นทุเรียนพื้นเมืองพันธุ์โบราณที่อำเภอลับแลที่รู้จักกันว่า หลงลับแล และ แก้วลับแล จึงเป็นผลไม้ที่ทำชื่อเสียงให้อุตรดิตถ์ได้อักโข พฤกษศาสตร์ของทุเรียน ว่ากันว่า เป็นผลไม้เมืองร้อน กระจายพันธุ์มาจาก บอร์เนียว มาเลเซีย อินโดนีเซีย และกลุ่มจังหวัดทางภาคใต้ของไทยหลายจังหวัด จึงมีทุเรียนพื้นเมืองอยู่มากมาย กลิ่นแรงจัด แล้วบรรทัดนี้ ก็มาถึง "กินทุเรียน อย่างไม่อ้วน" อาจสงสัยกินกันอย่างไรล่ะไม่อ้วน ตำราไทยบอกไว้ ให้กินเป็นยาถ่ายพยาธิปฏบัติง่ายดังนี้ ตื่นนอนเช้าๆ ยามรุ่งอรุณ ก็ราวๆประมาณ 05.00น. หลังจากล้างหน้า แปรงฟัน เรียบร้อย เริ่มกินทุเรียนได้ทันที กินพอประมาณ อาจสักครึ่งลูกย่อมๆ อาจมากหรือน้อนกว่านั้น ตามน้ำหนักอ้วน ผอม คือ อ้วนก็มากหน่อย ผอมก็น้อยลง ไม่ใช่กินเพื่ออิ่ม แต่กินเป็นยา แล้วดื่มน้ำอ่นตามไปมากๆ ควรกินสองวันติดต่อกันและงดอาหารในทั้งสองเช้านั้น ความร้อนในสารกำมะถันธรรมชาติ และกากใย จากพูทุเรียน จะออกฤทธิ์ชำระล้างขยะในลำไส้ออกได้อย่างเกลี้ยงเกลา รวมทั้งเป็นยาถ่ายพยาธิต่างๆ รวมทั้งเป็นยาถ่ายในผู้ป่วยน้ำเหลืองเสีย ซึ่งมักเกิดแผลจากแมลงขัดอยู่เสมอ ทุเรียนให้ประโยชน์คณานับที่แพทย์แผนไทย มีอาทิ เนื้อสีเหลือง - รสหวานร้อน ทำให้เกิดความร้อน แก้โรคผิวหนัง ทำให้ฝี-หนอง แห้ง เนื้อทุเรียนมีฤทธิ์ขับพยาธิ เปลือกหนาม - รสเฝื่อน สับแช่ในน้ำปูนใสใช้ชะล้างแผลที่เกิดจากน้ำเหลืองเสีย แผลพุพอง เผาทำถ่าน บดจนเป็นผง คลุกในน้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันงา ลดความบวมพองจากคางทูม และเผาเอาควันไล่ยุงและแมลง ใบทุเรียน - รสเย็นและเฝื่อน ใช้ต้มน้ำอาบแก้ใข แก้ดีซ่านและเป็นส่วนผสมในยาขับพยาธิ รากจากต้น - ตัดเป็นข้อๆ ต้มให้เดือด ดื่มบรรเทาอาการไข้และรักษาอาการท้องร่ว นอกจากทุเรียนจะทำให้คุณอเนกอนันต์ตามสรรพคุณยาที่กล่าวมายังเป็นไม้ที่มีวามเชื่อตามวัฒนธรรมประเพณีไทย ตั้งแต่กรุงศรีอยุธยากระทั่งจนถึงปัจจุบัน คือ เป็นไม้มงคล ซึ่งตามตำราปลูกต้นไม้ตามอักษรนาม ประจำทิศ ว่าไว้.."ทิศที่ควรปลูกต้นไม้มงคล ทิศบูรพา ให้ปลูกไผ่ กุ่มและมะพร้าว ทิศอาคเนย์ ให้ปลูกต้นยอและสารภี ทิศทักษิณ ให้ปลูกมะม่วง กับ มะพลับ ทิศหรดี ให้ปลูกชัยพฤกษ์ สะเดา ขนุน และพิกุล ทิศประจิม ปลูกกต้นมะขาม จะช่วยป้องกันความถ่อย ถ้อยความและผีร้ายมิให้มากล้ำกรายอีกทั้งต้นมะขามเป็นต้นไม้ที่มีชื่อเป็นมงคลนาม ถือเป็นเคล็ดว่าจะทำให้มีแต่คนเกรงขาม ยำเกรง คติความเชื่อนี้ ถือเป็นเคล็ดลับต่อกันมาแต่อดีต ซึ่งคำว่า ทุเรียน มีเสียงพ้องเกี่ยวกับการเรียน จึงหมายถึง "ความเป็นผู้คงแก่วิชาการเรียนรู้ หรือเป็นผู้เรียนรู้มาก" |
|
คอมเม้นทั้งหมด: 0 | |